เลือกพัดลมอุตสาหกรรม ให้เหมาะกับโกดังเก็บสินค้า

5 ปัญหาที่พบบ่อย จากส่วนระบายอากาศในโรงงาน

การระบายอากาศในโรงงานไม่เพียงแต่ช่วยให้อากาศภายในโรงงานเย็นสบายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพสินค้า สุขภาพของพนักงาน และอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆด้วย เชื่อว่าทุกโรงงานติดตั้งระบบระบายอากาศกันอยู่แล้ว แต่ก็มีโรงงานจำนวนไม่น้อยที่ประสบกับปัญหาจากส่วนระบายอากาศในโรงงาน ซึ่งหากปล่อยไว้ไม่แก้ไข อาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราเลยรวบรวม 5 ปัญหาหลักที่พบได้บ่อยที่สุด พร้อมสาเหตุและแนวทางป้องกันปัญหามาให้คุณได้เช็กลิสต์กัน

1. ความร้อนสะสม

ความร้อนสะสมเป็นหนึ่งในปัญหาจากส่วนระบายอากาศในโรงงานที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในโรงงานที่มีเครื่องจักรทำงานต่อเนื่อง หรือมีหลังคาและผนังที่ดูดซับความร้อน เช่น เมทัลชีท

สาเหตุที่พบบ่อย

  • การออกแบบระบบระบายอากาศไม่เหมาะกับขนาดพื้นที่จริง
  • พัดลมดูดอากาศมีขนาดเล็กเกินไป หรือแรงลมไม่เพียงพอ
  • จุดติดตั้งช่องลมเข้า-ออก ไม่ถูกตำแหน่ง ทำให้อากาศหมุนวนแต่ไม่ออก

ผลกระทบ

  • อุณหภูมิภายในสูงขึ้นจนส่งผลต่อสุขภาพพนักงาน
  • เครื่องจักรทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนสะสม เสี่ยงต่อการเสียหาย
  • ประสิทธิภาพการผลิตลดลง เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • ตรวจสอบการคำนวณอัตราการระบายอากาศให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่
  • ติดตั้งพัดลมหรือระบบดูดอากาศเสริมในจุดที่อากาศค้าง
  • พิจารณาใช้ระบบระบายอากาศแบบแรงดันบวกหรือแรงดันลบ เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้เต็มที่

2. ฝุ่นละอองและสารเคมี

โรงงานที่มีการผลิตเกี่ยวกับโลหะ ไม้ หรือสารเคมี มักเกิดฝุ่นละอองหรือไอระเหยที่ลอยฟุ้งในอากาศ หากไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี จะส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานและคุณภาพสินค้าได้

สาเหตุที่พบบ่อย

  • ไม่มีระบบกรองอากาศก่อนปล่อยออกนอกอาคาร
  • ช่องระบายอากาศอยู่ห่างจากจุดที่เกิดสารเคมี
  • ระบบท่อดูดอากาศรั่ว ทำให้ไอระเหยย้อนกลับเข้าสู่พื้นที่

ผลกระทบ

  • พนักงานเกิดอาการระคายเคือง แสบตา ไอ หรือมีปัญหาทางเดินหายใจเรื้อรัง
  • เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในพื้นที่ทำงาน
  • เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบและโดนปรับตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • ติดตั้งระบบกรองอากาศ (เช่น Activated Carbon, HEPA หรือ Wet Scrubber) ก่อนปล่อยออก
  • วางตำแหน่งช่องดูดอากาศใกล้กับจุดปล่อยสารเคมีโดยตรง
  • ตรวจสอบและบำรุงรักษาท่อดูดอากาศสม่ำเสมอ

3. เสียงรบกวน

ถึงแม้พัดลมอุตสาหกรรมจะช่วยระบายอากาศได้ดี แต่หากเลือกขนาดหรือประเภทไม่เหมาะสม อาจเกิดเสียงรบกวนที่ส่งผลต่อสมาธิและสุขภาพของพนักงานได้ โดยเฉพาะในโรงงานที่ติดตั้งพัดลมหรือโบลเวอร์ขนาดใหญ่

สาเหตุที่พบบ่อย

  • การติดตั้งพัดลมหรือโบลเวอร์ไม่แน่นหนา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน
  • ใบพัดเสียสมดุลหรือสึกหรอ จนทำให้เกิดเสียงดัง
  • ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียง หรือแดมเปอร์

ผลกระทบ

  • เสียงดังต่อเนื่องทำให้พนักงานเสียสมาธิและเกิดความเครียด
  • อาจเกิดอาการปวดหัวหรือสูญเสียการได้ยินจากเสียงรบกวนเรื้อรัง
  • ความสั่นสะเทือนส่งผลต่อความแม่นยำของเครื่องจักร

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • ตรวจสอบสมดุลของใบพัดและยึดอุปกรณ์ให้แน่นหนา
  • ติดตั้งฉนวนกันเสียงหรือกล่องลดเสียงในระบบระบายอากาศ
  • เลือกใช้พัดลมที่มีระดับเสียงต่ำ หรือออกแบบตำแหน่งติดตั้งให้ห่างจากพื้นที่ทำงาน

4. การออกแบบส่วนระบายอากาศ

การออกแบบส่วนระบายอากาศไม่เหมาะกับประเภทโรงงานเป็นต้นเหตุที่ใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกขนาดพัดลมผิด ใช้ระบบไม่ตรงกับลักษณะงาน หรือไม่คำนึงถึงทิศทางลม ทำให้ระบบทั้งหมดไม่มีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น

สาเหตุที่พบบ่อย

  • ออกแบบระบบโดยไม่ได้คำนวณค่าการหมุนเวียนอากาศ
  • ไม่ได้คำนึงถึงความร้อน ความชื้น หรือสารเคมีเฉพาะของกระบวนการผลิต
  • ติดตั้งระบบโดยไม่มีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญดูแล

ผลกระทบ

  • ส่วนระบายอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรก
  • ต้องแก้ไข เปลี่ยนท่อ หรือเพิ่มอุปกรณ์ภายหลัง เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน
  • อาจเกิดความเสียหายกับอาคารหรือเครื่องจักรเพราะความร้อนสะสม

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • ปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบระบบตั้งแต่เริ่มต้น
  • ใช้โปรแกรมจำลองการไหลของอากาศก่อนติดตั้งจริง
  • เผื่อขนาดระบบให้รองรับการขยายไลน์ผลิตในอนาคต

5. การบำรุงรักษา

หลายโรงงานละเลยการบำรุงรักษาส่วนระบายอากาศ เพราะคิดว่ามันยังทำงานได้อยู่ แต่จริงๆแล้วหากไม่บำรุงรักษาส่วนระบายอากาศ จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้

สาเหตุที่พบบ่อย

  • ไม่มีตารางบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่ชัดเจน
  • ปล่อยให้พัดลมหรือท่อระบายอากาศสะสมฝุ่นหนาแน่น
  • ไม่ตรวจสอบประสิทธิภาพการหมุนเวียนอากาศเลยตั้งแต่ติดตั้ง

ผลกระทบ

  • ประสิทธิภาพการระบายอากาศลดลงเรื่อยๆ
  • พลังงานสิ้นเปลืองมากขึ้น เพราะระบบต้องทำงานหนัก
  • อายุการใช้งานของอุปกรณ์สั้นลง เสียค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้น

วิธีแก้ไขและป้องกัน

  • จัดทำตารางบำรุงรักษาส่วนระบายอากาศอย่างน้อยทุก 6 เดือน
  • ทำความสะอาดใบพัด พัดลม ท่อดูด และช่องลมเป็นประจำ
  • ตรวจวัดปริมาณอากาศเป็นระยะเพื่อเช็กประสิทธิภาพ

หลายๆโรงงานละเลยกับการดูแลส่วนระบายอากาศในโรงงาน เพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาหากยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งผลต่อสุขภาพคนทำงาน คุณภาพสินค้า และต้นทุนของธุรกิจโดยตรงก็ว่าได้ อย่าปล่อยให้ส่วนระบายอากาศในโรงงานมีปัญหาเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นนอกจากจะเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงแล้ว ยังเกิดผลเสียหายต่อธุรกิจโดยตรงด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8

Scroll to Top