โกดังเป็นสถานที่ใช้เก็บสินค้าที่อาจเป็นสินค้ามีมูลค่า ดังนั้นการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีจึงจำเป็นต่อสินค้าเหล่านี้มาก เพราะหากไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย สินค้าอาจเกิดความเสียหายจากการโจรกรรม อุบัติเหตุ หรือไฟไหม้ได้ และมันสามารถสร้างผลกระทบทางการเงินได้อย่างมหาศาลในชั่วพริบตา และนี่ก็เป็น 8 ระบบรักษาความปลอดภัยในโกดังที่ทุกธุรกิจควรมี เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของกิจการ และสร้างภาพลักษณ์ของการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ

1. ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน
การมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างน้อย 1 คน ในการทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในโกดังถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจตราความเรียบร้อยให้ตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบบุคคลแปลกหน้า หรือยานพาหนะที่เข้าออก อีกทั้งยังสามารถประสานเจ้าของธุรกิจได้อย่างรวดเร็วหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่หากเจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมให้เข้าใจระบบเทคโนโลยีเกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ ก็จะช่วยให้ทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)
กล้องวงจรปิดถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ทุกโกดังควรมี โดยเฉพาะในจุดเสี่ยง เช่น ประตูเข้าออก จุดโหลดสินค้า หรือพื้นที่จัดเก็บสินค้ามูลค่าสูง การมีกล้องวงจรปิดจะช่วยจับตัวคนร้ายได้หากมีเหตุโจรกรรม เพราะกล้องวงจรปิดสามารถดูเหตุการณ์ย้อนหลังได้ สำหรับการเลือกกล้องวงจรปิดนั้น ควรเลือกที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
- ความละเอียดภาพระดับ Full HD หรือสูงกว่า
- ระบบอินฟราเรดสำหรับการมองเห็นในเวลากลางคืน
- การดูภาพผ่านมือถือหรือระบบคลาวด์
- การบันทึกภาพย้อนหลังอย่างน้อย 30 วัน
กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่มีฟังก์ชั่นที่ช่วยรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่น AI วิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติ เช่น การเคลื่อนไหวในเวลานอกทำการ หรือการเดินย้อนเส้นทางที่กำหนด แล้วแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ให้กับเจ้าของธุรกิจด้วย
3. ระบบสัญญาณกันขโมย
ระบบสัญญาณกันขโมยจะช่วยป้องกันเหตุไม่คาดคิดในช่วงนอกเวลาทำการ ซึ่งระบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับโกดังที่เก็บสินค้าราคาแพง เช่น เครื่องจักร หรือสินค้านำเข้า เมื่อระบบตรวจพบสิ่งผิดปกติ จะส่งเสียงเตือน หรือแจ้งเตือนผ่านแอพมือถือ ซึ่งระบบสัญญาณกันขโมยรุ่นใหม่ๆ สามารถเชื่อมต่อกับศูนย์รักษาความปลอดภัยภายนอก เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ทันทีด้วย
4. ระบบป้องกันอัคคีภัย
โกดังเป็นพื้นที่ที่มีของเก็บจำนวนมาก หากเกิดไฟไหม้จะสร้างความเสียหายรุนแรงภายในไม่กี่นาที ระบบป้องกันอัคคีภัยจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับระบบป้องกันอัคคีภัยหลักๆที่โกดังควรมี ได้แก่
- Smoke Detector / Heat Detector: ตรวจจับควันหรือความร้อนผิดปกติ
- Sprinkler System: ระบบหัวฉีดน้ำอัตโนมัติที่ทำงานเมื่ออุณหภูมิเกินค่าที่กำหนด
- Fire Alarm System: แจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุ
- ถังดับเพลิงและเส้นทางหนีไฟ: ควรมีการตรวจสอบและฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ควรเลือกวัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติกันไฟ และวางแผนการจัดเก็บสินค้าให้มีช่องว่างระหว่างชั้น เพื่อป้องกันการลามไฟได้ดีขึ้น

5. ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control)
ระบบนี้ช่วยให้การเข้าออกโกดังเป็นระเบียบและปลอดภัย โดยเฉพาะโกดังที่มีพนักงานจำนวนมากหรือมีผู้มาติดต่อเป็นประจำ โดยระบบนี้มีทั้งแบบบัตร RFID หรือคีย์การ์ด ระบบสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า และการลงทะเบียนผู้มาติดต่อผ่านแอพพลิเคชัน สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าออกเฉพาะพื้นที่ได้ เช่น โซนคลังสินค้า โซนออฟฟิศ หรือห้องควบคุมระบบ และยังสามารถบันทึกข้อมูลเวลาเข้าออกของพนักงานทุกคน ช่วยในการตรวจสอบย้อนหลัง สำหรับระบบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยบริหารบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
6. ระบบตรวจสอบด้วย IoT และ AI
IoT (Internet of Things) คือ ระบบที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในโกดัง เช่น กล้อง เซนเซอร์ ระบบไฟ ประตู หรือเครื่องจักร สามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังศูนย์ควบคุมกลางหรือคลาวด์ได้
AI (Artificial Intelligence) คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นแบบอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับความผิดปกติ ทำนายแนวโน้ม หรือแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุจริง
เมื่อ IoT และ AI ทำงานร่วมกัน ก็จะกลายเป็นระบบตรวจสอบอัจฉริยะ ที่เฝ้าระวังโกดังได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพึ่งคนเพียงอย่างเดียว
7. ระบบตรวจสอบความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม
ระบบนี้เป็นระบบที่ใช้เฝ้าระวัง ตรวจวัด และควบคุมปัจจัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทำงานหรือโกดัง เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัยต่อทั้งคน สินค้า และเครื่องจักร ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน หรือสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งระบบนี้ควรติดตั้งควบคู่กับระบบกล้องและระบบเตือนภัยต่างๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
8. ระบบบริหารความปลอดภัยแบบรวมศูนย์
สำหรับโกดังขนาดใหญ่ การรวมข้อมูลจากทุกระบบไว้ในศูนย์ควบคุมกลาง จะช่วยให้การบริหารความปลอดภัยเป็นเรื่องง่าย ทั้งการเชื่อมต่อกล้อง CCTV ระบบเตือนภัย ระบบเข้าออก และข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ให้แสดงข้อมูลเรียลไทม์บนจอเดียว พร้อมบันทึกเหตุการณ์ย้อนหลัง จะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มความเสี่ยง เช่น จุดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย หรือพื้นที่ที่มักเกิดเหตุผิดปกติ
การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในโกดังไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันทรัพย์สิน แต่มันคือการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ธุรกิจ หากคุณวางระบบอย่างครบถ้วนทั้ง 8 ด้าน จะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณในระยะยาว
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ระบบ IoT คืออะไร ทำไมคลังสินค้ายุคใหม่ถึงเลือกใช้
- อุปกรณ์ในโกดังที่จำเป็นต้องมี ประกอบด้วยอะไรบ้าง
- 7 ข้อควรปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานโกดังคลังสินค้า
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8




