แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยไม่สามารถคาดการณ์วันที่จะเกิดและความรุนแรงได้เลย หากความรุนแรงน้อย ผู้คนอาจไม่รู้สึกหรือรู้สึกเพียงเล็กน้อย แต่หากเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6 ริกเตอร์ขึ้นไป จะส่งผลให้อาคารเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวระดับนี้ขึ้นมา ต้องรีบตรวจสอบอาคารโรงงานเป็นการด่วน เพื่อประเมินความปลอดภัยในการใช้งานต่อไป สำหรับการตรวจสอบอาคารโรงงานหลังแผ่นดินไหวนั้น คุณก็สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้เอง โดยอ้างอิงจากคู่มือการสำรวจความเสียหายจากแผ่นดินไหว ของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ให้รายละเอียดไว้ดังนี้

เตรียมพร้อมก่อนออกตรวจสอบอาคาร
การเกิดแผ่นดินไหวในระดับรุนแรงส่งผลต่อตัวอาคารให้เกิดความเสียหายได้ และหลังจากเกิดแผ่นดินไหวตัวอาคารอาจทรุดลงมาได้ ดังนั้นควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนออกตรวจสอบอาคารด้วยการสวมอุปกรณ์เซฟตี้ ซึ่งได้แก่ หมวกนิรภัย, รองเท้านิรภัย, เสื้อที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล และนำชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปด้วย เผื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆที่ควรนำไปด้วย ได้แก่ ไฟฉาย, ตลับเมตร, โทรศัพท์มือถือ
ตรวจสอบภายนอกอาคาร และภายในอาคาร
ประเมินความเสียหายของภายนอกอาคารโดยดูอันตรายโดยรอบ ว่าอาจเกิดเหตุการณ์การทรุดตัวของดิน หรือเนินเขาถล่มไหม และโครงสร้างอาคารว่ามีการยุบตัว การเอียงออกจากฐานราก และรอยแตกบนตัวอาคาร รวมถึงภายในอาคารว่าพื้น คาน เสา ผนัง มีรอยแตกหรือการโก่งตัวหรือไม่ และตรวจเช็กระบบต่างๆภายในอาคารด้วย สำหรับการพิจารณาว่าโครงสร้างนั้นๆมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ให้พิจารณาตามนี้
1. พื้น (ผิวพื้นด้านบน/ล่าง, ผิวพื้นรอบๆเสา, รอยต่อระหว่างพื้นและคาน)
ระดับความเสียหาย
- ไม่มีรอยแตกร้าว
- รอยแตกร้าวกว้าง <1 มม. (เล็กน้อย)
- รอยแตกร้าวกว้าง 1-5 มม. (ปานกลาง)
- รอยแตกร้าวกว้าง >5 มม. มีการปริแตกเป็นบริเวณกว้างจนเห็นเหล็กเสริมชัดเจน (รุนแรง)
2. คาน (บริเวณจุดต่อคาน-เสา, บริเวณกลางช่วงคาน)
ระดับความเสียหาย
- มีรอยแตกร้าวแนวเฉือนขนาดเล็ก (เล็กน้อย)
- รอยแตกร้าวกว้าง 1-5 มม. (ปานกลาง)
- คานแตกร้าว >5 มม. หรือโก่งตัวผิดปกติ มีการปริแตกเป็นบริเวณกว้างจนเห็นเหล็กเสริมชัดเจน (รุนแรง)
3. เสา (บริเวณจุดต่อเสา-คาน, บริเวณกลางช่วงเสา)
ระดับความเสียหาย
- มีรอยแตกร้าวขนาดเล็กที่ปูนฉาบ (เล็กน้อย)
- รอยแตกร้าวแยกประมาณ 0.2-2 มม. (ปานกลาง)
- เสาแตกหักหรือร้าวผิดปกติ >2 มม. มีการปริแตกเป็นบริเวณกว้างจนเห็นเหล็กเสริมชัดเจน (รุนแรง)
4. กำแพงรับแรง (บริเวณกลางแผ่นผนัง, บริเวณรอยต่อกับพื้นและเสา)
ระดับความเสียหาย
- มีรอยแตกร้าวขนาดเล็กที่ปูนฉาบ (เล็กน้อย)
- รอยแตกร้าวแยกประมาณ 1-2 มม. (ปานกลาง)
- ผนังแตกหักหรือร้าวผิดปกติ >2 มม. มีการปริแตกเป็นบริเวณกว้างจนเห็นเหล็กเสริมชัดเจน (รุนแรง)

ติดป้ายบอกระดับความเสียหาย
ตามคู่มือการสำรวจความเสียหายจากแผ่นดินไหว ของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ได้แบ่งระดับความเสียหายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1. สีเขียว “ปลอดภัยใช้งานได้ตามปกติ”
ป้ายสีเขียว หมายถึง อาคารโรงงานไม่มีความเสียหาย หรือมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย ที่ไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคารหรือความปลอดภัย โดยมีคุณสมบัติดังนี้
- โครงสร้างอาคารโรงงานยังรับแรงได้ดีทั้งทางดิ่งและทางข้าง
- ไม่มีวัสดุหลุดร่วงที่ก่อให้เกิดอันตราย
- ไม่มีการทรุดตัวของพื้นดินโดยรอบ
- ทางเข้าออกหลักของอาคารโรงงานยังคงใช้งานได้ตามปกติ
- ไม่พบความเสียหายของระบบน้ำทิ้ง ที่อาจเกิดการแพร่เชื้อกระจายโรคได้
- ไม่พบสภาพเสี่ยงอื่นๆ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับสีเขียว ที่มีความปลอดภัย แต่ก็ต้องเฝ้าระวังหากมี aftershock ตามมา
2. สีเหลือง “ใช้งานได้แบบมีเงื่อนไข”
ป้ายสีเหลือง หมายถึง อาคารโรงงานมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ โดยมีเงื่อนไขในการใช้งาน ดังนี้
- จำกัดการใช้งานอาคารในบางพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากชิ้นส่วนที่อาจหลุดร่วงลงมาได้
- ควรมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยวิศวกร หรือทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียดก่อนเปิดใช้งานอาคารเต็มพื้นที่อีกครั้ง
- หากมีการซ่อมแซมชั่วคราว เช่น การติดตั้งค้ำยัน ควรพิจารณาให้อาคารโรงงานอยู่ในความเสียหายระดับปานกลาง เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายสิ่งค้ำยัน
3. สีแดง “อันตราย ห้ามใช้อาคารโรงงาน”
ป้ายสีแดง หมายถึง อาคารมีความเสียหายระดับรุนแรงจนไม่สามารถใช้งานได้อีก และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตหากใช้งานต่อ โดยพิจารณาจากลักษณะเหล่านี้
- อาคารเอียงหรือถล่มบางส่วน
- โครงสร้างหลักมีรอยร้าวใหญ่
- พื้นดินใต้อาคารแตกหรือทรุดตัว
- การเคลื่อนตัวระหว่างชั้นที่เห็นได้ชัด
- มีภัยจากภายนอกเข้ามา เช่น ดินถล่ม, แก๊สรั่ว, ไฟฟ้าขัดข้อง, ถนนตัดขาด, น้ำท่วมฉับพลัน เป็นต้น
หากพบอาคารมีลักษณะดังที่กล่าวมาข้างต้น ต้องปิดอาคารทันที ห้ามเปิดให้ใช้งานเด็ดขาด
การติดป้ายประกาศบอกระดับความเสียหายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นจำเป็นต้องเป็นป้ายขนาดใหญ่ที่เห็นได้ชัด ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าอาคาร หากอาคารมีทางเข้าหลายทาง ควรติดป้ายประกาศทุกทางเข้า และถ่ายรูปป้ายประกาศที่ติดแล้ว เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล
การเช็กความเสี่ยงของโรงงาน ด้วยการตรวจสอบสภาพอาคารหลังแผ่นดินไหว จะช่วยให้ทราบถึงระดับความเสียหายของโครงสร้าง สามารถประเมินความปลอดภัย และวางแผนซ่อมแซมปรับปรุงได้ เพื่อให้อาคารโรงงานกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โครงสร้างโกดัง โรงงาน ที่รองรับต่อแผ่นดินไหว
- 10 มาตรฐานความปลอดภัยโรงงาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย
- พื้นโกดังรับน้ำหนักได้เท่าไหร่
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8