การบริหารจัดการโกดังที่ดีไม่ใช่เพียงเรื่องของการจัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการรับประกันคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในทุกขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสินค้าของเรา และทำให้ธุรกิจของเราได้มาตรฐานด้วย ดังนั้นจึงต้องมีเรื่องของมาตรฐาน ISO เข้ามา เพื่อให้สินค้าและการดำเนินงานต่างๆภายในโกดังเป็นไปอย่างมีคุณภาพและได้รับการยอมรับ

มาตรฐาน ISO ของโกดัง คืออะไร?
มาตรฐาน ISO หรือ International Organization for Standardization คือ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน เป็นองค์กรอิสระที่ไม่ใช่ของรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีบทบาทในการพัฒนาและเผยแพร่มาตรฐานสากลต่างๆ เพื่อช่วยให้การซื้อขายสินค้าและบริการเป็นไปอย่างยุติธรรม มีคุณภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก

มาตรฐาน ISO มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
มาตรฐาน ISO ของโกดังโดยเฉพาะไม่มี แต่โกดังสามารถนำมาตรฐานระบบการจัดการต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับการดำเนินงานได้อย่างครอบคลุม โดยมาตรฐานที่สำคัญและนิยมใช้ในธุรกิจโกดังสินค้า มีดังนี้
1. ISO 9001
ISO 9001 เป็นระบบบริหารจัดการคุณภาพ (Quality Management System) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบการจัดการคุณภาพที่ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 9001 จะมีระบบการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ตั้งแต่การรับสินค้า การจัดเก็บ การจัดการสินค้าคงคลัง การหยิบและบรรจุ ไปจนถึงการจัดส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์และถูกต้องตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดส่งและลดการร้องเรียนจากลูกค้า
2. ISO 14001
ISO 14001 เป็นระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System) ที่มุ่งเน้นการช่วยให้องค์กรสามารถจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ตั้งไว้
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 14001 จะมีระบบการจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสีย การรีไซเคิล การลดการใช้พลังงาน การควบคุมการปล่อยมลพิษ และการจัดการสารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การมีมาตรฐานนี้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และช่วยให้ธุรกิจมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
3. ISO 45001
ISO 45001 เป็นระบบบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety Management System) ที่กำหนดข้อกำหนดขึ้นมาเพื่อให้องค์กรสามารถจัดการความเสี่ยงและปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OH&S) ได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งมาตรฐานนี้มุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน รวมถึงการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจของพนักงาน
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 45001 จะช่วยให้โกดังมีระบบการจัดการความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น การประเมินความเสี่ยง การฝึกอบรมพนักงานด้านความปลอดภัย การบำรุงรักษาอุปกรณ์ การจัดการเหตุฉุกเฉิน และการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน
4. ISO 22000
ISO 22000 เป็นระบบบริหารจัดการความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety Management System) เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่ผลิต จัดเก็บ หรือจำหน่าย มีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 22000 จะมีการควบคุมและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับอาหาร เช่น การปนเปื้อน การควบคุมอุณหภูมิ การจัดการสุขอนามัย และการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน
5. ISO 27001
ISO 27001 เป็นระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management System) ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและปกป้องข้อมูลสำคัญได้อย่างเป็นระบบและมีความเสี่ยง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูล การโจมตีทางไซเบอร์ และเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยอื่นๆ
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 27001 จะได้รับการปกป้องข้อมูลจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย หรือความเสียหาย
6. ISO 31000
ISO 31000 เป็นระบบการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management – Guidelines) ที่ช่วยให้บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพในทุกประเภทขององค์กร
สำหรับโกดังที่ได้รับการรับรอง ISO 31000 สามารถระบุ ประเมิน จัดการความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความเสี่ยงจากอัคคีภัย น้ำท่วม การโจรกรรม ความผิดพลาดในการจัดส่ง หรือความเสียหายของสินค้า การบริหารความเสี่ยงที่ดีช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงาน
ทั้งหมดนี้เป็นมาตรฐาน ISO ที่โกดังของคุณสามารถนำมาปรับใช้ได้เพื่อยกระดับโกดังให้มีคุณภาพ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- มาตรฐานโรงงานมีอะไรบ้าง เพื่อเสริมความปลอดภัยและมาตรฐานการผลิต
- รู้จัก 7S ทฤษฎีที่ช่วยให้ธุรกิจในโกดังของคุณเติบโต
- บริหารสต๊อกอย่างไรให้มีประสิทธิภาพเมื่อใช้โกดังให้เช่า
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8




