ในช่วงฤดูฝน หลายๆโกดังต้องประสบกับภัยพิบัติน้ำท่วมโกดัง ซึ่งภัยน้ำท่วมเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะน้ำท่วมเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล ทั้งตัวอาคารโกดัง โครงสร้างพื้นฐาน และที่สำคัญที่สุดคือสินค้าที่จัดเก็บอยู่ภายใน ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักหรือถึงขั้นล้มละลายได้เลยทีเดียว ดังนั้นการเตรียมความพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในเรื่องของแผนเผชิญเหตุ อุปกรณ์การรับมือหรือป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการทำประกันภัยโกดังก็ช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้ แล้วประกันภัยโกดัง คุ้มครองน้ำท่วมได้แค่ไหน? วันนี้เรามีคำตอบให้กับคุณแล้วในบทความนี้

ประกันภัยโกดัง คืออะไร?
ประกันภัยโกดังเป็นการทำประกันภัยทรัพย์สินประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวอาคารโกดัง โครงสร้าง และทรัพย์สินภายใน เช่น เครื่องจักร วัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูป ความคุ้มครองหลักๆ มักจะครอบคลุมภัยจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ภัยจากยานพาหนะ และอาจรวมถึงภัยจากน้ำท่วมหากระบุไว้ในกรมธรรม์
ประกันภัยโกดัง คุ้มครองน้ำท่วมได้แค่ไหน?
หลายคนเข้าใจว่าประกันภัยโกดังจะคุ้มครองทุกกรณี แต่ในความเป็นจริง น้ำท่วมมักถูกจัดอยู่ในหมวดภัยธรรมชาติที่ต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม หรือมีข้อยกเว้นบางประการ
ประกันภัยโกดังทั่วไปอาจไม่ครอบคลุมน้ำท่วม หาก:
- ไม่ได้ระบุภัยน้ำท่วมไว้ในกรมธรรม์
- อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น เขตลุ่มน้ำ หรือพื้นที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
- เป็นน้ำท่วมจากการระบายของเขื่อนหรือฝาย ซึ่งบางบริษัทอาจจัดเป็นเหตุการณ์เฉพาะ
ดังนั้น ก่อนซื้อประกันภัยโกดัง ผู้ประกอบการควรตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครองน้ำท่วมอย่างละเอียด สำหรับคนที่ซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม หรือเลือกกรมธรรม์ที่รวมไว้แล้ว ความคุ้มครองจะครอบคลุมสิ่งต่อไปนี้
1. ค่าซ่อมแซมอาคารและโครงสร้าง
- พื้น ผนัง หลังคา ระบบไฟฟ้า
- ประตู หน้าต่าง และระบบระบายอากาศ
2. ค่าสินค้าที่เสียหาย
- สินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ หรือสินค้าระหว่างผลิต
- ค่าขนย้ายหรือทำลายสินค้าที่ไม่สามารถใช้งานได้
3. ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์
- เครื่องจักรที่เสียหายจากน้ำ
- ระบบควบคุมอัตโนมัติหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
4. ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
- ค่าทำความสะอาด
- ค่าขนย้ายชั่วคราว
- ค่าจัดหาสถานที่สำรอง

เงื่อนไขความคุ้มครองน้ำท่วม
การทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อยกเว้นในกรมธรรม์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวกำหนดว่าบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้คุณหรือไม่เมื่อเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม
จำนวนเงินเอาประกันภัย คุณควรประเมินมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดในโกดังอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคาร สินค้า หรือเครื่องจักร เพื่อกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยให้เพียงพอ หากกำหนดต่ำเกินไป เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นจริง เงินที่ได้รับอาจไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูธุรกิจ
- ค่าเสียหายส่วนแรก ค่าเสียหายส่วนแรกคือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองเมื่อเกิดความเสียหาย ซึ่งโดยปกติแล้วสำหรับภัยน้ำท่วมอาจมีการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกในอัตราร้อยละที่สูงกว่าภัยประเภทอื่น เช่น 5-10% ของมูลค่าความเสียหาย ซึ่งหมายความว่าหากความเสียหายมีมูลค่า 1 ล้านบาท และมีค่าเสียหายส่วนแรก 10% คุณจะต้องรับผิดชอบเอง 1 แสนบาท
- ข้อยกเว้นความคุ้มครอง กรมธรรม์ส่วนใหญ่มักจะระบุข้อยกเว้นความคุ้มครองไว้ เช่น ความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมที่เกิดจากการกระทำโดยเจตนา ความเสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดจากเขื่อนแตก หรือความเสียหายที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย ซึ่งคุณต้องอ่านให้ละเอียดเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่าทุกความเสียหายจะได้รับการชดเชย
- การแจ้งความเสียหาย เมื่อเกิดภัยน้ำท่วม คุณต้องรีบแจ้งบริษัทประกันทันทีและไม่ควรเคลื่อนย้ายหรือซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายก่อนที่บริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจความเสียหาย เว้นแต่จะเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
ธุรกิจแบบไหนควรซื้อประกันโกดังที่คุ้มครองน้ำท่วม?
1. ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
- เขตลุ่มน้ำ
- พื้นที่ที่ไม่มีระบบระบายน้ำดีพอ
2. ธุรกิจที่มีสินค้าราคาแพงหรือเสียหายง่าย
- อาหาร ยา เครื่องสำอาง
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องจักรเฉพาะทาง
3. ธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องในการดำเนินงาน
- อีคอมเมิร์ซที่ต้องจัดส่งทุกวัน
- โรงงานที่ไม่สามารถหยุดผลิตได้
การมีประกันภัยโกดังที่คุ้มครองน้ำท่วมคือการลงทุนเพื่อความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว แม้จะมีค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วม เช่น สินค้าเสียหาย เครื่องจักรพัง หรือการหยุดดำเนินงานหลายวัน ก็ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ทำไมประกันภัยโกดังจึงสำคัญ? เลือกทำที่ไหนดี?
- 6 วิธี เตรียมโกดังให้พร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน
- 5 ปัญหาเรื่องโกดัง เมื่อเข้าสู่หน้าฝน และวิธีแก้ปัญหา
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8