รู้ก่อนลงทุน ค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับโกดังเก็บสินค้า

การลงทุนสร้างหรือเช่าโกดังเก็บสินค้า ไม่ใช่แค่การได้ที่เก็บสินค้าเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายหลากหลายรูปแบบที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจต้องคำนึงถึง เพราะหากวางแผนไม่รอบคอบ อาจทำให้ต้นทุนบานปลายและกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินได้ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่ามีค่าใช้จ่ายใดบ้างที่มาพร้อมกับโกดังเก็บสินค้า เพื่อให้ผู้ลงทุนเตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจจริง

1. ค่าก่อสร้างหรือค่าเช่าโกดัง

ค่าก่อสร้าง

  • สำหรับผู้ที่เลือกสร้างโกดังใหม่ ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายด้านวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง ค่าช่าง และการออกแบบ
  • ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการสร้างโกดังสำเร็จรูปอาจเริ่มต้นที่ 3,500 – 7,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับรูปแบบโครงสร้างและวัสดุที่เลือกใช้
  • หากเป็นโกดังแบบ Customize หรือสั่งออกแบบพิเศษ ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นอีกเท่าตัว

ค่าเช่า

  • สำหรับธุรกิจที่ยังไม่พร้อมลงทุนก้อนใหญ่ การเช่าโกดังถือเป็นทางเลือก
  • ค่าเช่าโดยทั่วไปอยู่ที่ 120 – 250 บาทต่อตารางเมตร/เดือน ขึ้นกับทำเล พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวก
  • ต้องคำนวณสัญญาเช่าและเงินประกันล่วงหน้า ซึ่งอาจเป็นภาระเงินก้อนแรกที่ต้องเตรียมไว้

2. ค่าโครงสร้างพื้นฐานและการตกแต่ง

แม้จะมีตัวอาคารแล้ว แต่โกดังเก็บสินค้าต้องมีองค์ประกอบเสริมที่เหมาะกับการใช้งาน ดังนี้

  • พื้นโกดัง ต้องทำพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหนาและแข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักสินค้า
  • ระบบประตูและรั้ว เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าออก
  • สำนักงานภายในโกดัง บางธุรกิจต้องมีห้องทำงานเล็กๆ เพื่อจัดการเอกสารและบุคลากร
  • ระบบไฟส่องสว่าง ต้องติดตั้งไฟเพียงพอทั้งภายในและภายนอก

3. ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายและเอกสารต่างๆ

  • ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตก่อสร้าง (ขอ อ.1) หากสร้างใหม่
  • ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ต้องชำระประจำปี
  • ค่าเชื่อมต่อสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โทรคมนาคม
  • ค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน (กรณีซื้อพร้อมที่ดิน)

4. ค่าบำรุงรักษา

โกดังเก็บสินค้าไม่ได้สร้างครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องมีการดูแลต่อเนื่อง ดังนี้

  • ค่าทำความสะอาดและจัดการพื้นที่
  • ค่าซ่อมบำรุงประจำปี เช่น หลังคารั่ว ไฟเสีย พื้นแตกร้าว
  • ค่าตัดหญ้าและดูแลรอบพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยและความเรียบร้อย

5. ค่าประกันภัย

การทำประกันภัยสำหรับโกดังเป็นเรื่องที่ควรมองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น

  • ประกันอัคคีภัย
  • ประกันภัยทรัพย์สิน
  • ประกันภัยบุคคลากร

6. ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

  • ค่าไฟฟ้า โกดังเก็บสินค้ามักใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก โดยเฉพาะหากมีระบบปรับอากาศหรือเครื่องจักร
  • ค่าน้ำประปา แม้จะใช้ไม่มาก แต่ก็ต้องมีไว้สำหรับคนทำงานและการทำความสะอาด
  • ค่าอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม สำหรับระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) หรือการติดต่อประสานงาน

7. ค่าใช้จ่ายด้านระบบรักษาความปลอดภัย

  • กล้องวงจรปิด ติดตั้งครอบคลุมทุกจุดเสี่ยง
  • ระบบสัญญาณกันขโมย
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หากโกดังมีขนาดใหญ่และต้องการเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง

8. ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ

  • ชั้นวางสินค้า
  • รถโฟล์คลิฟท์
  • พาเลท
  • เครื่องสแกนบาร์โค้ดและระบบซอฟต์แวร์จัดการสต๊อก

9. ค่าแรงงาน

โกดังไม่ได้มีแค่ตัวอาคาร แต่ต้องมีบุคลากรดูแล หลักๆจะมี

  • พนักงานคลังสินค้า จัดเรียงสินค้า ตรวจสอบสต๊อก
  • พนักงานขับรถโฟล์คลิฟท์ หากมีการใช้เครื่องจักรยกสินค้า
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้าดูพื้นที่
  • ฝ่ายจัดการและเอกสาร ตรวจสอบการนำเข้า–ส่งออกสินค้า

10. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

นอกจากค่าใช้จ่ายที่มองเห็น ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกิดขึ้น เช่น

  • ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น หากทำเลโกดังอยู่ไกลจากแหล่งกระจายสินค้า
  • ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ หากการจัดการคลังไม่ดีพอ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตามกำหนด
  • ค่าใช้จ่ายจากความเสียหายของสินค้า เช่น ความชื้น สัตว์รบกวน

การลงทุนในโกดังเก็บสินค้าไม่ใช่แค่เรื่องของอาคารหรือพื้นที่ แต่ยังเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายทั้งที่เห็นได้ชัดและค่าใช้จ่ายแฝง ตั้งแต่ค่าก่อสร้าง ค่าเช่า ค่ากฎหมาย ค่าบำรุงรักษา ค่าแรงงาน ไปจนถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ประกอบการที่รู้ล่วงหน้าจะสามารถวางแผนงบประมาณได้อย่างแม่นยำ และป้องกันไม่ให้ต้นทุนเกินความจำเป็น หากวิเคราะห์และบริหารจัดการอย่างมีระบบ โกดังเก็บสินค้าก็จะกลายเป็นทรัพย์สินที่สร้างมูลค่าและช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8



Scroll to Top