“พัดลมอุตสาหกรรม” เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำหน้าที่ระบายอากาศในโกดังให้ออกสู่ภายนอก ทำให้อากาศภายในโกดังโล่ง โปร่ง เย็นสบายขึ้น ส่งผลให้สินค้ามีคุณภาพที่ดี เพราะมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคนทำงาน ไม่เพียงเท่านี้ การที่ภายในโกดังมีการระบายอากาศที่ดี ทำให้ประหยัดพลังงานในระยะยาวอีกด้วย แล้วต้องเลือกพัดลมอุตสาหกรรมยังไงให้เหมาะกับโกดังเก็บสินค้าของคุณ? เรามีคำตอบให้ในบทความนี้แล้ว

ประโยชน์ของพัดลมอุตสาหกรรม
โกดังเก็บสินค้าเป็นพื้นที่ปิด อากาศภายในจึงร้อน ชื้น หากไม่มีการระบายอากาศที่ดี สินค้าอาจเกิดการเสียหายขึ้นได้ ซึ่งประโยชน์ของพัดลมอุตสาหกรรมในโกดังเก็บสินค้า ได้แก่
- ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในโกดัง ป้องกันความร้อนสะสม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีแอร์
- ลดความชื้นและป้องกันเชื้อรา สำคัญมากหากเก็บสินค้าอุปโภคบริโภค หรือสินค้าที่ไวต่อความชื้น
- ยืดอายุสินค้า ช่วยรักษาสภาพสินค้าให้คงคุณภาพ
- เพิ่มความสบายให้พนักงาน อากาศหมุนเวียนดีขึ้น ลดความเหนื่อยล้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- ช่วยลดต้นทุนพลังงาน หากเลือกพัดลมที่เหมาะสม อาจไม่ต้องใช้แอร์หรือลดระยะเวลาการเปิดแอร์ได้
ประเภทพัดลมอุตสาหกรรมที่นิยมใช้ในโกดัง
1. พัดลมตั้งพื้น
พัดลมตั้งพื้นมีลักษณะที่ใหญ่ สามารถตั้งพื้นได้ เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อดี
- ปรับทิศทางลมได้
- เคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ต้องการได้ง่าย
- ราคาถูก
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับพื้นที่กว้างมาก
เหมาะกับ โกดังขนาดกลางหรือพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน
2. พัดลมติดผนัง
พัดลมติดผนังเป็นพัดลมที่ติดตั้งบนผนัง เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย
ข้อดี
- ไม่กินพื้นที่พื้น
- เหมาะกับการระบายอากาศแนวข้าง
- สามารถติดตั้งถาวรได้
ข้อเสีย
- เมื่อติดตั้งแล้ว ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
เหมาะกับ โกดังที่มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการระบายอากาศเฉพาะจุด
3. พัดลม HVLS หรือ High Volume Low Speed Fan
พัดลมแบบ HVLS เป็นพัดลมขนาดใหญ่ที่มีใบพัดตั้งแต่ 3–7 เมตร หมุนช้าแต่กระจายลมได้ทั่วพื้นที่
ข้อดี
- ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 1,000–1,700 ตารางเมตรต่อเครื่อง
- ลดอุณหภูมิได้ 4–6°C โดยไม่ต้องใช้แอร์
- ประหยัดพลังงานมากกว่าพัดลมทั่วไป
ข้อเสีย
- ราคาสูง
- ต้องทำการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ
เหมาะกับ โกดังขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง และต้องการการไหลเวียนอากาศทั่วพื้นที่
4. พัดลมถังกลม
พัดลมถังกลม หรืออีกชื่อคือพัดลมท่อ เป็นพัดลมอุตสาหกรรมทรงกระบอกที่ใช้ดูดหรือเป่าลมในแนวตรง จึงช่วยถ่ายเทความร้อน ลดกลิ่นควัน กลิ่นต่างๆ และลดฝุ่นได้เป็นอย่างดี
ข้อดี
- มีแรงลมสูง จึงทำแรงดันได้ดีกว่า
- สามารถติดตั้งในท่อได้
- เหมาะกับการระบายอากาศในพื้นที่จำกัด เช่น อุโมงค์ โรงงาน หรือบริเวณที่ต้องการดูดควันและฝุ่น
- ใช้ในพื้นที่แคบหรือทางเดิน
ข้อเสีย
- เสียงค่อนข้างดัง
- การติดตั้งค่อนข้างซับซ้อน
- ราคาสูง
เหมาะกับ โกดังที่ต้องการระบายอากาศเฉพาะโซน เช่น ห้องเก็บสารเคมี หรือพื้นที่แคบ

วิธีเลือกพัดลมอุตสาหกรรมให้เหมาะกับโกดังเก็บสินค้าของคุณ
1. ขนาดพื้นที่
พื้นที่กว้างต้องใช้พัดลมที่มีแรงลมสูงหรือพัดลม HVLS
พื้นที่แคบหรือมีโซนเฉพาะ ใช้พัดลมถังกลมหรือพัดลมติดผนัง
2. ความสูงของเพดาน
เพดานสูงเหมาะกับพัดลม HVLS ที่กระจายลมจากบนลงล่าง
เพดานต่ำควรใช้พัดลมตั้งพื้นหรือพัดลมติดผนัง
3. ประเภทสินค้า
สินค้าไวต่อความร้อน เช่น อาหารหรือยา ต้องการพัดลมที่ควบคุมอุณหภูมิได้ดี
สินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า หรืออะไหล่ ใช้พัดลมทั่วไปได้
4. สภาพแวดล้อม
หากโกดังอยู่ในพื้นที่ร้อนชื้น ควรเลือกพัดลมที่ช่วยลดความชื้น
หากมีฝุ่นมาก ควรเลือกพัดลมที่มีระบบกรองอากาศหรือทำความสะอาดง่าย
วิธีการดูแลรักษาพัดลมอุตสาหกรรม
พัดลมอุตสาหกรรมก็ต้องการดูแลรักษาเหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โดยวิธีการดังนี้
- ทำความสะอาดใบพัดทุก 2–3 เดือน เพื่อไม่ให้ฝุ่นถ่วงน้ำหนักและลดประสิทธิภาพ
- หยอดน้ำมันหล่อลื่นที่แกนหมุน ทุก 6 เดือน เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าและสายไฟ เป็นประจำ ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร
- ตรวจสอบเสียงและแรงสั่นสะเทือน หากผิดปกติควรหยุดใช้งานและเรียกช่างทันที
การเลือกพัดลมอุตสาหกรรมให้เหมาะกับโกดังเก็บสินค้าจะส่งผลดีอย่างมากต่อประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนของธุรกิจ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อพัดลมอุตสาหกรรมไม่ควรมองแต่ราคาหรือยี่ห้อเพียงอย่างเดียว แต่ให้คิดถึงความเหมาะสมกับโกดังเป็นหลัก แล้วการลงทุนของธุรกิจคุณจะคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แก้ปัญหาโกดังร้อน กับวัสดุช่วยกันความร้อนในโกดัง
- ความสำคัญและข้อควรระวัง สำหรับการควบคุมอุณหภูมิในโกดัง
- 7 ข้อควรปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานโกดังคลังสินค้า
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8