เหตุผลที่การเลือกหลอดไฟสำหรับโรงงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

หลอดไฟแบบไหนดีที่สุดสำหรับโรงงาน? รวมคำตอบที่คุณควรรู้

หลอดไฟเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของโรงงาน ที่ไม่เพียงแต่ให้แสงสว่าง แต่ยังส่งผลถึงความปลอดภัย คุณภาพการผลิต และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว ดังนั้นการเลือกหลอดไฟที่เหมาะสมกับโรงงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะหลอดไฟแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความสว่าง อายุการใช้งาน การประหยัดพลังงาน และความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเฉพาะทาง บทความนี้จะเจาะลึกทุกคำตอบที่คุณควรรู้เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกหลอดไฟที่ดีที่สุดสำหรับโรงงานของคุณ

เหตุผลที่การเลือกหลอดไฟสำหรับโรงงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

ด้วยความที่โรงงานเป็นสถานที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากอาคารทั่วไป อย่างการมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพดานสูง สภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ความร้อน หรือสารเคมี การเลือกหลอดไฟที่ไม่เหมาะสมอาจเกิดปัญหาได้ ดังนี้

1. ด้านความปลอดภัย หลอดไฟที่มีแสงสว่างเพียงพอจะช่วยลดอุบัติเหตุจากการทำงานของพนักงานได้
2. คุณภาพการผลิต แสงสว่างที่เหมาะสมจะช่วยให้พนักงานมองเห็นงานได้ชัดขึ้น จึงทำงานได้ดีและเกิดการผิดพลาดน้อยลง
3. ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ มักมีค่าไฟจากระบบส่องสว่างมากกว่า 30% ของค่าไฟฟ้าทั้งหมด แต่หากเลือกหลอดไฟได้ถูกต้องเหมาะสมกับโรงงาน ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านนี้ไปได้มากทีเดียว

ประเภทของหลอดไฟที่นิยมใช้กันในโรงงาน

1. หลอดฟลูออเรสเซนต์

หลอดไฟชนิดนี้นิยมใช้กันมากในโรงงานรุ่นเก่า เพราะให้แสงสว่างที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป

ข้อดี

  • ราคาถูก
  • หาซื้อง่าย

ข้อเสีย

  • มีอายุการใช้งานสั้น ประมาณ 10,000 ชั่วโมง
  • มีสารปรอท ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหากทิ้งไม่ถูกวิธี
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องเปิดปิดไฟบ่อยๆ

2. หลอด LED

หลอด LED เหมาะกับการใช้ในทุกพื้นที่ของโรงงาน โดยเฉพาะพื้นที่ผลิตที่ต้องการความแม่นยำและปลอดภัย

ข้อดี

  • ช่วยประหยัดพลังงาน สามารถลดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 40-70%
  • อายุการใช้งานยาวนานมากถึง 50,000 ชั่วโมง
  • ทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้เครื่องจักรหนัก

ข้อเสีย

  • ราคาสูง แต่คุ้มค่าในระยะยาว

3. หลอดเมทัลฮาไลด์

สำหรับหลอดไฟชนิดนี้ให้ความสว่างสูงมาก จึงเหมาะกับโรงงานที่มีเพดานสูง หรือพื้นที่การผลิตขนาดใหญ่

ข้อดี

  • ให้ค่าความถูกต้องของสี (CRI) ดี เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด

ข้อเสีย

  • กินไฟมาก และมีความร้อนสูง
  • มีอายุการใช้งานสั้นประมาณ 10,000 – 20,000 ชั่วโมง
  • ต้องใช้เวลาในการวอร์มอัพ กว่าจะให้แสงสว่างเต็มที่

4. หลอดโซเดียมความดันสูง

หลอดโซเดียมความดันสูงเหมาะกับการใช้พื้นที่ภายนอกโรงงานหรือลานจอดรถ

ข้อดี

  • ประหยัดพลังงาน
  • มีอายุการใช้งานยาว

ข้อเสีย

  • แสงออกสีเหลือง ทำให้มองเห็นรายละเอียดสีไม่ชัดเจน
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการแสงขาว

ปัจจัยสำคัญในการเลือกหลอดไฟโรงงาน

การเลือกหลอดไฟให้เหมาะสมกับโรงงานมากที่สุด ควรเลือกจากปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. ประเภทของงาน งานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ควรใช้แสงที่มีความเข้มสูง (Lux) และค่าความถูกต้องของสี (CRI) สูง
2. ความสูงของเพดาน สำหรับเพดานสูง ควรเลือกหลอดไฟที่ให้แสงสว่างครอบคลุมพื้นที่ได้กว้าง เช่น หลอดไฟเมทัลฮาไลด์
3. งบประมาณ ถึงแม้ราคาเริ่มต้นของหลอดไฟ LED จะสูงกว่า แต่เมื่อคำนึงถึงค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการบำรุงรักษาในระยะยาว จะเห็นว่า LED ให้ความคุ้มค่ามากกว่า
4. อุณหภูมิของสี แสงสีขาวนวล (Daylight) ที่มีค่าประมาณ 5,000-6,500K เหมาะสำหรับพื้นที่ทำงาน เพราะช่วยให้พนักงานรู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกหลอดไฟสำหรับโรงงาน

1. โรงงานควรใช้หลอดไฟกี่ดวง?

จำนวนหลอดไฟขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และความสว่างที่ต้องการ (Lux) ซึ่งต้องคำนวณโดยผู้เชี่ยวชาญ

2. หลอดไฟ LED ดีที่สุดสำหรับโรงงานจริงหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว หลอดไฟ LED เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงงานในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน อายุการใช้งานยาวนาน และลดต้นทุนการบำรุงรักษาในระยะยาว

3. หลอดไฟ LED มีผลกระทบต่อเครื่องจักรในโรงงานหรือไม่?

หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพสูงจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องจักร แต่การเลือกหลอดไฟที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้เกิด คลื่นรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องจักรที่มีความละเอียดอ่อนได้

4. ควรเลือกหลอดไฟแบบมีฝาครอบหรือไม่?

หลอดไฟที่มีฝาครอบช่วยป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง เหมาะสำหรับโรงงานที่มีสภาพแวดล้อมที่ต้องควบคุมเป็นพิเศษ

5. หากเปิดโรงงานผลิตอาหาร ควรเลือกหลอดไฟแบบไหนดี?

ให้เลือกหลอด LED ที่มีมาตรฐาน IP65 กันน้ำ กันฝุ่น เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

การเลือกหลอดไฟที่ดีที่สุดต้องพิจารณาจากลักษณะเฉพาะของโรงงาน เช่น ขนาดพื้นที่ ความสูงเพดาน ประเภทสินค้า และงบประมาณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8

Scroll to Top