หลายคนเข้าใจว่าโกดังขนาดเล็กเหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้าน้อย แต่จริงๆแล้วโกดังขนาดเล็กสามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายกว่าที่คิด สามารถทำธุรกิจได้หลายประเภท อีกทั้งยังสามารถบริหารสินค้าได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโกดังขนาดใหญ่ได้เลย จนทำให้โกดังขนาดเล็กกลายเป็นโกดังขนาดยอดนิยมในกลุ่มธุรกิจ SME และสตาร์ทอัพที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บสินค้าโดยไม่ต้องลงทุนสูงตั้งแต่เริ่มต้น แล้วโกดังขนาดเล็กเป็นยังไง? เหมาะสมกับธุรกิจแบบไหนบ้าง? เรามีคำตอบให้ในบทความนี้แล้ว

โกดังขนาดเล็กคืออะไร?
โกดังขนาดเล็ก คือ พื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีขนาดตั้งแต่ 50–500 ตารางเมตร โดยออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าในปริมาณไม่มากนัก ใช้สำหรับเก็บสินค้าระยะสั้น ระยะยาว หรือเป็นจุดกระจายสินค้า ให้กับร้านค้าออนไลน์และธุรกิจ SME ส่วนใหญ่จะเป็นโกดังที่สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องสร้างเอง ค่าเช่าก็จะมีทั้งแบบรายเดือนและรายปี
ข้อดีของโกดังขนาดเล็ก
1. ต้นทุนต่ำ
ด้วยความที่โกดังมีขนาดเล็ก ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจึงไม่สูงมากนัก หรือหากไม่ได้สร้างเอง แต่เป็นการเช่า ค่าเช่าก็จะมีราคาถูกกว่าโกดังขนาดใหญ่หลายเท่า
2. มีความคล่องตัวสูง
หากยอดขายโตขึ้น คุณสามารถเพิ่มพื้นที่เช่า ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามต้องการ หรือย้ายไปโกดังที่ใหญ่กว่าได้ทันที ตามการเติบโตของธุรกิจ
3. จัดเก็บสินค้าได้เป็นระบบ
ถึงแม้พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก แต่โกดังขนาดเล็กก็สามารถติดตั้งชั้นวางของ จัดหมวดหมู่สินค้า และใช้ระบบบริหารสต็อก ได้ครบเหมือนโกดังใหญ่
4. เหมาะกับธุรกิจเริ่มต้น
โกดังขนาดเล็กเหมาะมากกับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้น เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนเกินตัวได้

โกดังขนาดเล็ก เหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง?
1. ธุรกิจออนไลน์
ธุรกิจออนไลน์ เช่น ขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง เป็นต้น ซึ่งธุรกิจนี้กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน เป็นร้านค้าออนไลน์ที่ขายผ่านแพลตฟอร์ม Shopee หรือ Lazada สินค้าพวกนี้จำเป็นต้องมีโกดังขนาดเล็กไว้ใช้สำหรับจัดเก็บสินค้า โดยใช้เป็นทั้งคลังเก็บสินค้าและจุดแพ็กของได้ในที่เดียว ทำให้จัดการคำสั่งซื้อและขนส่งได้เร็วขึ้น
2. ธุรกิจนำเข้า ส่งออก สินค้าขนาดเล็ก
สำหรับคนที่ทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งสินค้าที่นำเข้านั้นเป็นสินค้าขนาดเล็ก เช่น ของแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน เครื่องครัว การใช้โกดังขนาดเล็กในการจัดเก็บสินค้าเหล่านี้ก็เพียงพอแล้วในการพักสินค้าและรอการกระจาย
3. ธุรกิจขายส่งสินค้า
แม้จะเป็นธุรกิจขายส่ง แต่สินค้าหลายประเภทก็ไม่จำเป็นต้องมีโกดังใหญ่ เช่น อาหารแห้ง อุปกรณ์สำนักงาน หรือสินค้าแฟชั่น โกดังขนาดเล็กก็เพียงพอสำหรับเก็บสินค้าเป็นล็อตๆ ก่อนกระจายไปยังร้านค้าปลีก นอกจากนี้ยังมีข้อดีในเรื่องของสามารถควบคุมต้นทุนได้ง่าย เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแพงเกินความจำเป็น และยังเหมาะกับการวางระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่เมืองหรือชานเมืองอีกด้วย
4. ธุรกิจแฟรนไชส์
ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่ต้องกระจายสินค้าไปยังร้านค้าต่างๆ เช่น อาหาร กาแฟ ซึ่งสินค้าพวกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้โกดังขนาดใหญ่ โกดังขนาดเล็กก็สามารถใช้พักสินค้าเพื่อส่งต่อได้เป็นอย่างดี
5. ธุรกิจผลิตงานฝีมือหรือสินค้าทำมือ
งานฝีมือหรือสินค้าทำมือ เช่น งานไม้ งานปั้น งานเย็บผ้า มักต้องการพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปก่อนนำไปขาย ซึ่งการมีโกดังขนาดเล็กจะช่วยให้แยกพื้นที่ผลิตและจัดเก็บได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการขยายจาก Home Business มาสู่ธุรกิจขนาดย่อม (SME) โดยที่ยังควบคุมต้นทุนได้ดี
6. ธุรกิจบริการที่ต้องใช้พื้นที่เก็บอุปกรณ์
บางธุรกิจไม่ได้ขายสินค้าโดยตรง แต่มีอุปกรณ์ หรือเครื่องมือจำนวนมาก เช่น ธุรกิจรับจัดงานอีเวนต์ ธุรกิจทำความสะอาด บริการซ่อมบำรุง หรือบริษัทจัดส่งเอกสาร พวกนี้ก็เหมาะกับโกดังเล็กมากเช่นกัน เพราะไม่ต้องเช่าออฟฟิศใหญ่ แค่มีพื้นที่เก็บของและจุดโหลด ขนย้ายอุปกรณ์ก็เพียงพอแล้ว
7. ธุรกิจสตาร์ทอัพ
หากธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่กำลังทดสอบสินค้าตัวใหม่ หรือเริ่มต้นทำแบรนด์แบบทดลอง โกดังขนาดเล็กถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะสามารถเช่าในระยะสั้นเพื่อดูความคุ้มค่าก่อนได้ ถ้าไม่เวิร์กก็เลิกได้ง่าย ไม่ต้องแบกรับต้นทุนระยะยาว
การเลือกโกดังขนาดเล็กในการทำธุรกิจ จะช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุน เพิ่มความคล่องตัว และจัดการระบบหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดออนไลน์มีการแข่งขันสูงและมีความเร็วเป็นหัวใจสำคัญ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รู้จักประเภทโกดัง เลือกให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
- 8 เหตุผลที่ธุรกิจออนไลน์ควรมีโกดังเก็บสินค้าเป็นของตัวเอง
- เทคนิคการเลือกโกดังให้เช่า เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ระยะยาว
PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ
ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY
ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8