สัญญาณเตือน ก่อนเกิดอัคคีภัยในโกดังสินค้า และวิธีระงับเหตุเบื้องต้น

อัคคีภัยเป็นภัยที่สร้างความเสียหายให้แก่โกดังอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร สินค้าเสียหาย รวมถึงชีวิตของคนที่อยู่ในโกดังขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ด้วย นับว่าการเกิดอัคคีภัยเพียงครั้งเดียวส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาวได้เลย ดังนั้นการรู้เท่าทันสัญญาณเตือนล่วงหน้า ก่อนเกิดอัคคีภัยในโกดังสินค้า และการมีความรู้ความเข้าใจในการระงับเหตุเบื้องต้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ได้

สัญญาณเตือน ก่อนเกิดอัคคีภัยในโกดังสินค้า

การเกิดอัคคีภัยไม่มีกำหนดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีแต่สัญญาณเตือนที่ออกมาให้เห็น ให้ได้กลิ่น หรือได้ยิน หากเราใส่ใจและสังเกตอย่างละเอียด สัญญาณเหล่านี้คือโอกาสสำคัญที่จะเข้าไปจัดการก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป และนี่ก็เป็นสัญญาณเตือนของการเกิดอัคคีภัย

1. มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

หากโกดังมีกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยลอยมา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นสารเคมีรั่วไหล กลิ่นพลาสติกไหม้ กลิ่นยางไหม้ กลิ่นควัน แม้มีแค่กลิ่นเล็กน้อยแต่ยังไม่เห็นควันหรือเปลวไฟ ก็ควรรีบไปตรวจสอบทันที เพราะกลิ่นไหม้นี้บ่งบอกว่าอาจมีบางอย่างกำลังร้อนจัดจนเริ่มหลอมละลาย หรือเกิดการเผาไหม้ในพื้นที่ที่เรามองไม่เห็น

2. อย่ามองข้ามควัน

อย่ามองข้ามควันขาวหรือเทาบางๆ ที่ลอยขึ้นมาจากบริเวณใดบริเวณหนึ่งของโกดังเด็ดขาด เพราะมันอาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มของการเผาไหม้ก็ได้ แต่หากเห็นควันสีดำเข้มมักเกิดจากการเผาไหม้วัสดุที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม ยาง หรือพลาสติก ซึ่งบ่งชี้ถึงไฟที่รุนแรงและมีสารพิษสูง ส่วนควันสีเหลือง เขียว หรือน้ำเงิน อาจบ่งบอกถึงการเผาไหม้ของสารเคมีบางชนิดที่อันตรายยิ่งกว่า

3. สัมผัสถึงความร้อน

สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากเครื่องจักรที่ทำงานหนักเกินไป มอเตอร์ชำรุด หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ การสัมผัสหรือใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดเพื่อตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้

4. ได้ยินเสียงแปลกๆ

หากได้ยินเสียงแปลกๆ เช่น เสียงปะทุ เสียงดังแป๊บ หรือเสียงฟู่ เสียงเหล่านี้มักเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือการรั่วไหลของแก๊ส ต้องคอยสังเกตเสียงเหล่านี้อยู่เสมอ แต่หากโกดังมีการติดตั้งเครื่องตรวจจับความร้อน แล้วได้ยินเครื่องตรวจจับความร้อนส่งเสียง ทั้งที่ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติ ก็ไม่ควรมองข้าม ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของสัญญาณอย่างละเอียดทันที

5. แสงและภาพผิดเพี้ยนไป

ไม่ควรจะมีประกายไฟหรือแสงวูบวาบเกิดขึ้น หากพบแสงสะท้อนจากความร้อนที่มาจากเครื่องจักร หรือมีประกายไฟมาจากระบบไฟฟ้า ต้องเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัยทันที

สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดอัคคีภัย

สภาพแวดล้อมในโกดังก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอัคคีภัยได้ ดังนี้

• ใช้สายไฟที่มีสภาพเก่า ชำรุด มีการต่อพ่วงมากเกินไป หรือการใช้ปลั๊กพ่วงที่รองรับกระแสไฟได้ไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
• สะสมสิ่งของที่เป็นตัวติดไฟง่าย เช่น เศษกระดาษ ลังกระดาษ เศษผ้า เป็นต้น โดยไม่มีการจัดเก็บที่เหมาะสม หรือเก็บไว้ใกล้กับบริเวณที่ติดไฟง่าย
• การไม่ดูแลเครื่องจักร หรือใช้งานเครื่องจักรหนักเกินไป ก็ทำให้เกิดการสะสมความร้อนได้ง่าย

1. ตั้งสติ และประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

เมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติ และประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ว่าอัคคีภัยที่เกิดขึ้นมีขนาดเท่าไหร่ สามารถควบคุมได้ด้วยถังดับเพลิงหรือไม่ หากไฟมีขนาดใหญ่ หรือไม่สามารถควบคุมได้ หรือมีกลุ่มควันหนาทึบ ห้ามพยายามเข้าดับเพลิงเองเด็ดขาด

2. อพยพผู้คนออกจากพื้นที่อันตราย

สำรวจว่ามีคนอยู่ในบริเวณที่อันตรายหรือเปล่า หากมีรีบอพยพคนออกทันที โดยให้ใช้เส้นทางหนีไฟที่กำหนด ห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด

3. ดับเพลิงเบื้องต้น (หากมั่นใจว่าปลอดภัยและควบคุมได้)

เลือกใช้ถังดับเพลิงให้ถูกประเภท

• เพลิงไหม้ประเภท A (เชื้อเพลิงทั่วไป): กระดาษ ผ้า ไม้ – ใช้ถังดับเพลิงชนิดน้ำ, โฟม, ผงเคมีแห้ง
• เพลิงไหม้ประเภท B (ของเหลวติดไฟ): น้ำมัน สี สารเคมี – ใช้ถังดับเพลิงชนิดโฟม, CO2, ผงเคมีแห้ง
• เพลิงไหม้ประเภท C (ไฟฟ้า): อุปกรณ์ไฟฟ้า – ใช้ถังดับเพลิงชนิด CO2, ผงเคมีแห้ง
• เพลิงไหม้ประเภท F (น้ำมันและไขมันในการประกอบอาหาร): ใช้ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย (Wet Chemical) หรือชนิดเฉพาะ

และใช้หลัก “PASS” ในการใช้งานถังดับเพลิง

• Pull (ดึง) สลักนิรภัยออก
• Aim (เล็ง) หัวฉีดไปที่ฐานของไฟ (ไม่ใช่เปลวไฟ)
• Squeeze (บีบ) คันบีบให้สุด
• Sweep (ส่าย) หัวฉีดไปมาที่ฐานของไฟจนกว่าไฟจะดับสนิท

4. โทรแจ้งดับเพลิง

ไม่ว่าจะสามารถดับเพลิงเองได้หรือไม่ ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เบอร์ 199 พร้อมบอกสถานที่เกิดเหตุให้ชัดเจน และรายงานข้อมูลเบื้องต้น เช่น ลักษณะของเพลิงไหม้, มีผู้ติดอยู่หรือไม่, มีวัตถุอันตรายหรือไม่

5. รวมพล ณ จุดนัดหมาย

เมื่ออพยพออกมาจากอาคารแล้ว ให้ไปรวมตัวกันที่จุดนัดหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้หัวหน้างานสามารถตรวจสอบจำนวนผู้ที่อพยพออกมาได้ครบถ้วน และแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง

เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอัคคีภัย ควรมีการตรวจสอบและเช็กสภาพเครื่องจักร และระบบไฟฟ้าในโกดังสม่ำเสมอ นอกจากนี้การฝึกซ้อมอพยพการหนีไฟ และอบรมการใช้งานถังดับเพลิงเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ทุกคนในโกดังสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• สีกันไฟ ช่วยให้โกดังปลอดภัยได้อย่างไร และควรเลือกอย่างไรให้ได้มาตรฐาน
• ตัวอย่าง สิ่งของที่จะเอามาเก็บในโกดังเก็บของ พร้อมข้อควรระวังและแนวทาง
• โกดัง โรงงาน ต้องทำอะไรบ้าง หลังเหตุแผ่นดินไหว

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8