กฎหมายควบคุมอาคาร ใครจะสร้างโกดัง โรงงาน ต้องรู้

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างโกดังหรือโรงงาน ควรรู้กฎหมายควบคุมอาคาร ไม่ว่าจะเป็น ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะร่นและที่ว่าง โครงสร้างและความปลอดภัย ด้านสุขลักษณะและสิ่งแวดล้อม ข้อกำหนดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ รวมถึง ขั้นตอนในการขออนุญาตสร้างโกดัง โรงงานเพื่อจะได้ก่อสร้างโกดัง โรงงานให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ วันนี้เราจึงได้นำบทความเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาคารมา บอกกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่กำลังสร้างโกดังหรือโรงงาน

กฎหมายควบคุมอาคาร คืออะไร?

กฎหมายควบคุมอาคาร คือ ข้อบัญญัติที่ออกโดยรัฐ เช่น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎหมายท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีบทบาทในการกำหนดรูปแบบ การใช้พื้นที่ และความปลอดภัยของอาคารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโกดังหรือโรงงานจะอยู่ในประเภท “อาคารควบคุมพิเศษ” ซึ่งหมายความว่าต้องมีใบอนุญาตก่อนเริ่มก่อสร้าง และจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่หน่วยงานราชการกำหนด

ข้อกำหนดที่คนสร้างโกดัง โรงงาน ต้องรู้

1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะร่นและที่ว่าง

ระยะร่นจากแนวเขตที่ดิน กำหนดระยะห่างที่ต้องเว้นจากแนวเขตที่ดินข้างเคียง เพื่อความเป็นส่วนตัว การระบายอากาศ และป้องกันการเกิดอัคคีภัย
ที่ว่างโดยรอบอาคาร ต้องมีพื้นที่ว่างโดยรอบอาคารตามที่กำหนด เพื่อเป็นทางเข้าออก ทางหนีไฟ และพื้นที่สำหรับรถดับเพลิง

2. ข้อกำหนดด้านโครงสร้างและความปลอดภัย

ความมั่นคงแข็งแรง โครงสร้างต้องได้รับการออกแบบและคำนวณโดยวิศวกรโยธาที่ได้รับใบอนุญาต ให้มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักบรรทุก ทั้งน้ำหนักของอาคารเอง สินค้า และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงแรงลมและแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
ระบบป้องกันอัคคีภัย ต้องมีประสิทธิภาพ เพราะถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของโกดัง โรงงานเลย เช่น ถังดับเพลิง ระบบสปริงเกลอร์ ระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ ทางหนีไฟที่เพียงพอ และวัสดุที่ใช้ก่อสร้างต้องเป็นวัสดุที่ทนไฟตามที่กฎหมายกำหนด
ระบบไฟฟ้า ต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และมีกำลังเพียงพอต่อการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน

3. ข้อกำหนดด้านสุขลักษณะและสิ่งแวดล้อม

ระบบสุขาภิบาล ต้องมีการจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลอย่างเหมาะสม มีระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
การระบายอากาศและแสงสว่าง ต้องมีการออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดีและมีแสงสว่างเพียงพอต่อการทำงาน เพื่อสุขภาพที่ดีของพนักงาน
การควบคุมมลพิษ หากเป็นโรงงานที่มีกระบวนการผลิตที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เสียง หรือของเสียอันตราย จะต้องมีการติดตั้งระบบควบคุมมลพิษตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ. โรงงาน, พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
การจัดการขยะ ต้องมีแผนการจัดการขยะและของเสียอย่างถูกวิธี ทั้งขยะทั่วไปและขยะอุตสาหกรรม

4. ข้อกำหนดสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ

นอกจากกฎหมายควบคุมอาคารแล้ว โรงงานอุตสาหกรรมยังต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) โรงงานบางประเภทต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานเพิ่มเติม
การควบคุมเครื่องจักร การติดตั้งและใช้งานเครื่องจักรต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
การจัดการวัตถุอันตราย หากโรงงานมีการใช้วัตถุอันตราย ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายอย่างเคร่งครัด
ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โรงงานขนาดใหญ่บางแห่งอาจต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้วย

ความผิดต่อการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร

ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารจะได้รับโทษจากฎหมายดังนี้

โดนค่าปรับและโทษจำคุกหากไม่ทำการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
หากทำการก่อสร้างแล้ว เจ้าหน้าที่พบว่าไม่ได้ทำการขออนุญาต จะต้องถูกสั่งให้รื้อถอนอาคาร แต่หากไม่รื้อถอนอาคาร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 30,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่ง

ขั้นตอนในการขออนุญาตสร้างโกดัง โรงงาน

1. ตรวจสอบผังเมือง

ตรวจสอบผังเมืองว่าอยู่ในพื้นที่สีใด และพื้นที่สีนั้นสามารถสร้างโกดังได้หรือไม่ และมีข้อจำกัดเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างไรบ้าง

2. ออกแบบอาคาร

การออกแบบอาคารนั้นต้องทำโดยสถาปนิกและวิศวกร และการออกแบบต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงและข้อบัญญัติท้องถิ่น เช่น โครงสร้าง ความสูง ระยะร่น ช่องเปิด ทางหนีไฟ ระบบสุขาภิบาล เป็นต้น

3. จัดเตรียมเอกสาร และยื่นคำขออนุญาต

เอกสารที่ต้องจัดเตรียมในการขออนุญาตสร้างโกดัง โรงงาน ได้แก่ แบบก่อสร้าง รายการคำนวณโครงสร้าง สำเนาโฉนดที่ดิน สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเอกสารครบถ้วนแล้วให้นำไปยื่นขออนุญาตที่สำนักงานเขต หรือเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ที่จะทำการสร้างโกดัง โรงงาน

4. เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุญาต

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับเอกสารและคำขออนุญาตสร้างโกดัง โรงงานแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร แบบแปลน และความสอดคล้องกับกฎหมาย หากมีข้อผิดพลาดอาจมีการแก้ไขหรือชี้แจง แต่หากเอกสารถูกต้องก็จะทำการอนุมัติใบอนุญาตก่อสร้าง (อ.1) ให้ ซึ่งใบอนุญาตนี้เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงว่าสามารถเริ่มก่อสร้างโกดัง โรงงานได้

5. ขอใบรับรองเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น

เมื่อก่อสร้างเสร็จ ต้องยื่นขอใบรับรองการก่อสร้าง (อ.6) เพื่อสามารถใช้โกดัง โรงงานได้อย่างถูกกฎหมาย
การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัดตั้งแต่เริ่มต้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการควรจะทำ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย และเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน สินค้า และชุมชนโดยรอบ รวมถึงการสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจของคุณในระยะยาวด้วย

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8