โกดัง โรงงาน ต้องทำอะไรบ้าง หลังเหตุแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติที่พบได้บ่อยครั้ง สำหรับประเทศไทยนานๆครั้งจะมีแผ่นดินไหวระดับรุนแรงสักครั้งหนึ่ง ล่าสุดก็เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ความรุนแรงระดับ 7.7 ริกเตอร์ ซึ่งความรุนแรงระดับนี้ส่งผลให้อาคาร บ้านเรือน รวมทั้งโกดัง และโรงงานเกิดความเสียหาย แต่ถึงแม้ว่าโกดัง โรงงานของเรายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าปลอดภัยจริง ดังนั้นจึงต้องมีการประเมินความเสียหายเบื้องต้นหลังเหตุแผ่นดินไหว และนี่คือขั้นตอนและสิ่งที่ควรทำหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

ประเมินสถานการณ์และความปลอดภัยเบื้องต้น

หลังจากแผ่นดินไหวควรประเมินสถานการณ์และความปลอดภัยเบื้องต้น ด้วยการสั่งให้ทุกคนในโกดัง โรงงานหยุดการทำงาน และออกจากอาคารไปยังพื้นที่ปลอดภัยภายนอกทันที และสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เช่น อาคารที่อาจถล่มลงมา, แก๊สรั่ว, สายไฟขาด หรือวัตถุอันตรายหกหล่น หากมีคนบาดเจ็บก็ให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วค่อยนำส่งโรงพยาบาลตามอาการ

ตรวจสอบความเสียหายของโกดัง โรงงาน

ก่อนทำการตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบควรสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้เพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งได้แก่ หมวกนิรภัย, รองเท้านิรภัย, เสื้อที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล และนำชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปด้วย เผื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆที่ควรนำไปด้วย ได้แก่ ไฟฉาย, ตลับเมตร, โทรศัพท์มือถือ จากนั้นทำการตรวจสอบความเสียหายด้วยสายตาทั้งอาคารภายในและภายนอกอย่างละเอียด พร้อมถ่ายรูปเก็บรายละเอียดไว้ด้วย สำหรับสิ่งที่ควรตรวจสอบหลักๆนั้น ได้แก่

1. โครงสร้างอาคารภายใน

1.1 พื้น

  • มีรอยร้าวเล็กน้อย สามารถใช้งานได้ตามปกติ และควรซ่อมแซมเพื่อป้องกันการขยายตัวของรอยร้าว
  • พบรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ บ่งบอกว่าอาคารได้รับความเสียหายอย่างมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและห้ามเข้าใช้งานอาคารเด็ดขาด

1.2 คาน

  • มีรอยร้าวขนาดเล็ก ควรรีบซ่อมแซมเพื่อป้องกันไม่ให้รอยร้าวขยายตัว แต่ยังสามารถใช้อาคารได้ตามปกติ
  • มีรอยร้าวเป็นเส้นลึก หรือแตกแยกออกจากกัน บ่งบอกว่าอาคารได้รับความเสียหายอย่างมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและห้ามเข้าใช้งานอาคารเด็ดขาด

1.3 เสา

  • มีรอยร้าวเล็กน้อย สามารถใช้งานได้ตามปกติ และควรซ่อมแซมเพื่อป้องกันการขยายตัวของรอยร้าว
  • มีรอยแตกร้าวบนเสาขนาดลึก หรือแตกจนปูนกะเทาะออกมาเห็นโครงสร้างเหล็กข้างใน บ่งบอกว่าอาคารได้รับความเสียหายอย่างมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและห้ามเข้าใช้งานอาคารเด็ดขาด

1.4 ผนัง

  • มีรอยแตกร้าวเล็กน้อย สามารถใช้งานได้ตามปกติ
  • ผนังแตกหักหรือร้าวผิดปกติ มีการปริแตกเป็นบริเวณกว้างจนเห็นเหล็กเสริมชัดเจน บ่งบอกว่าอาคารได้รับความเสียหายอย่างมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและห้ามเข้าใช้งานอาคารเด็ดขาด

2. โครงสร้างอาคารภายนอก

  • ผนังภายนอกและฐานรากมีรอยร้าวเฉียง ร้าวลึก หรือแตกกระจาย
  • ปล่องไฟ กำแพง กันสาดพัง หรือหลุดออกจากที่เดิม
  • กระจกแตก หน้าต่างพัง ประตูบิดเบี้ยว
  • อาคารเอียง โครงสร้างเคลื่อนออกจากฐาน
  • พื้นดินรอบอาคารมีการทรุดตัว
  • สายไฟ หรือเสาไฟล้ม

เมื่อตรวจสอบอาคารอย่างละเอียดแล้ว ก็ให้ติดป้ายประกาศบอกระดับความเสียหายหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยระดับความเสียหายแบ่งได้ 3 ระดับ ดังนี้

  • ไม่เสียหาย หรือเสียหายเล็กน้อย สามารถใช้อาคารได้ตามปกติ ใช้ป้ายประกาศสีเขียว
  • เสียหายปานกลาง สามารถใช้งานอาคารได้ อาจแค่บางส่วนหรือทั้งหมด และอาคารควรได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง ใช้ป้ายประกาศสีเหลือง
  • เสียหายรุนแรง ห้ามใช้อาคารเด็ดขาด ใช้ป้ายประกาศสีแดง

ในบางครั้งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระดับความเสียหายของอาคาร ที่ต้องทำการเปลี่ยนป้ายประกาศ ซึ่งการเปลี่ยนป้ายประกาศนี้ควรทำโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ซึ่งเหตุผลในการเปลี่ยนป้ายประกาศอาจมีดังนี้

  • เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการประเมิน หรือมีผู้ร่วมประเมินที่มีความเห็นแตกต่าง
  • เป็นผลจากการเกิดแผ่นดินไหวตามอย่างรุนแรง (ในกรณีนี้ ป้ายประกาศใหม่ต้องระบุวันที่ตรวจสอบใหม่)
  • ตรวจพบความเสื่อมสภาพของเสถียรภาพของพื้นดินในภายหลัง เช่น การทรุดตัวของอาคาร

3. ระบบสาธารณูปโภค

  • ตรวจสอบเบรกเกอร์หลักว่ายังทำงาน หรือหลุดลงมาเองหรือไม่ ตรวจสอบสภาพสายไฟ ปลั๊กไฟ ว่ามีการชำรุด หรือมีกลิ่นไหม้หรือไม่ หากพบความผิดปกติให้รีบปิดเบรกเกอร์หลักทันที จากนั้นให้ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ
  • ตรวจสอบท่อประปาว่ามีจุดไหนแตกหรือรั่ว หากพบรอยรั่ว ให้ปิดวาล์วน้ำหลัก
  • หากใช้แก๊ส ให้ตรวจสอบท่อและอุปกรณ์ หากมีกลิ่นแก๊ส ให้ปิดวาล์วแก๊สหลักและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที ห้ามเปิดหรือปิดสวิตช์ไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว

4. ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องจักร และสินค้า

ตรวจสอบความเสียหายของเครื่องจักร ระบบการผลิต และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการสั่นสะเทือน และทำการตรวจสอบความเสียหายของสินค้าคงคลัง วัตถุดิบ และสารเคมีต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ หากมีการรั่วไหลของสารเคมีอันตราย ให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัย
ดำเนินการตามขั้นตอน

หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าอาคารมีความเสียหายต่อโครงสร้าง ต้องสั่งให้ทุกคนห้ามเข้าไปในโกดัง โรงงานเด็ดขาด จากนั้นทำการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาทำการประเมินความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหน่วยงานเขาจะมีวิศวกร หรือผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว เพื่อประเมินความเสียหายอย่างละเอียด และให้คำแนะนำในการซ่อมแซมหรือรื้อถอนต่อไป

การเกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรง ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อโกดัง โรงงานอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดหลังเหตุแผ่นดินไหว เพื่อความปลอดภัยในการใช้โกดัง โรงงานอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8

Scroll to Top