ความแตกต่างระหว่าง การลงทุนระยะสั้น กับระยะยาว แบบไหนที่ใช่สำหรับเรา

การลงทุนนั้นมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ไม่ว่าการลงทุนนั้นจะเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคง อย่างการลงทุนอสังหาฯก็ตาม นักลงทุนไม่ว่า จะมีประสบการณ์มากแค่ไหนก็ย่อมต้องทำการศึกษารูปแบบการลงทุนนั้นๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ทั้งในด้านรูปแบบในการลงทุนและปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การลงทุนระยะสั้น กับระยะยาวนั้นคืออะไร

สำหรับมือใหม่ที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนไม่มาก จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราเหมาะกับการลงทุนในรูปแบบไหนจึงจำเป็นจะต้องศึกษาความแตกต่างดังต่อไปนี้

การลงทุนอสังหาฯ แบบระยะสั้น

การลงทุนระยะสั้น หรือการ Flipping นั้นจะเป็นการลงทุนเพื่อเก็งกำไร ในรูปแบบซื้อมาขายไป โดยอาจจะมีการรีโนเวทหรือปรับปรุง เพื่อให้มูลค่าของ อสังหาฯ ที่ซื้อมาเพิ่มสูงขึ้นตัวอย่างอสังหาฯ ที่ลงทุนในรูปแบบนี้ได้แก่ บ้าน หรือ คอนโด และอีกรูปแบบที่นิยมทำในปัจจุบันคือการขายใบจองคอนโด จะเป็นการขายในช่วงก่อนที่จะมีการโอนชื่อเจ้าของ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะต้องรีบขายให้ได้ก่อนที่จะถึงเวลาการโอน และกลุ่มลูกค้ายังเป็นกลุ่มที่ต้อมมีความต้องการบ้านหรือคอนโดจริงๆ ด้วย

การลงทุนอสังหาฯ แบบระยะยาวเป็น 2 รูปแบบ คือ

1. ซื้อเพื่อเก็งกำไร

การซื้อเพื่อเก็งกำไรนิยมทำกับเบ้านหรือคอนโดที่ซื้อทิ้งไว้แล้ว อย่างต่ำ 2 ปีขึ้นไป เนื่องจากราคาของอสังหาฯมักมีการปรับขึ้นตามราคาที่ดิน และตามความเจริญของพื้นที่ เช่น ตั้งอยู่ในเมือง แหล่งชุมชน แหล่งท่องเที่ยง หรือเป็นแหล่งที่มีงาน ซึ่งมีความต้องการสูง ก็จะทำให้บ้านหรือคอนโดที่ซื้อทิ้งไว้ มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

2. ซื้อเพื่อปล่อยเช่า

การปล่อยเช่า จะเป็นการลงทุนที่สร้างรายได้ระยะยาว เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการ Passive Income หรือรายได้เป็นประจำสม่ำเสมอทุกเดือนจากค่าเช่านั้นเอง ถึงแม้ว่า การลงทุนแบบนี้ในตอนแรกจะมีความเสี่ยงจากการหาผู้เช่า และการดูแลรักษาก็ตาม

ความแตกต่างของ การลงทุนระยะสั้น และ การลงทุนระยะยาว

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป แบบไหนที่ใช่สำหรับเรานั้นอยู่ที่ความต้องการของเรา ซึ่งสามารถดูได้ตามตารางดังนี้

ประโยชน์การลงทุนระยะสั้นการลงทุนระยะยาว
1. กระแสเงินสดสามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างรวดเร็ว เช่น การเช่าอสังหาฯ รายวันหรือรายเดือนมีรายได้มั่นคงและสม่ำเสมอ
จากค่าเช่าระยะยาว
2. การเพิ่มมูลค่าสามารถเพิ่มมูลค่าได้จากการ
ปรับปรุงอสังหาฯ และขายในระยะสั้น
มูลค่าอสังหาฯ เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
3. การลดภาษีได้รับประโยชน์จากการลดภาษีในระยะสั้นจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนได้รับการลดภาษีจากการหักค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยเงินกู้ระยะยาว
4. การกระจายความเสี่ยงกระจายการลงทุนในอสังหาฯ หลายประเภทในระยะสั้น เพื่อกระจายความเสี่ยงการถือครองอสังหาฯ ระยะยาวช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
5. การสร้างความมั่งคั่งสร้างความมั่งคั่งได้เร็วขึ้น
จากการขายอสังหาฯ ที่มีกำไร
การถือครองอสังหาฯ ระยะยาวเป็นการสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
6. การควบคุมการลงทุนผู้ลงทุนสามารถควบคุมการปรับปรุง
และขายอสังหาฯ ได้ตามต้องการ
มีการควบคุมและจัดการอสังหาฯ
เพื่อให้เกิดผลตอบแทนในระยะยาว
7. สภาพคล่องมีสภาพคล่องสูงกว่าเนื่องจากสามารถ
ขายอสังหาฯ ได้ในระยะเวลาสั้น
สภาพคล่องต่ำกว่าเนื่องจาก
ต้องถือครองอสังหาฯ เป็นเวลานาน
8. ความเสี่ยงมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากตลาดอสังหาฯ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วมีความเสี่ยงต่ำกว่าจากการถือครองอสังหาฯ ระยะยาว

สุดท้ายแล้วการเลือกว่าจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้นหรือระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ลงทุน เช่น หากผู้ลงทุนต้องการสภาพคล่องหรือเงินสดอย่างรวดเร็ว การลงทุนระยะสั้นนั้นจะเหมาะมากกว่า แต่ถ้าต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวและลดความเสี่ยง การลงทุนระยะยาวอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพราะการลงทุนในอสังหานั้นยิ่งใช้ระยะเวลามากความเสี่ยงจะยิ่งลดลงตาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY 

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : property.user14@gmail.com
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8 

Scroll to Top